ingresoxtremo.com

charlotte-ตอน-ท-2

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท. ) กระทรวงศึกษาธิการ 924 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 Call center 0-2335-5222, 0-2392-4021 โทรสาร 0-2381-0750 COPYRIGHT © 2016 The Institute for the Promotion of Teaching Science and Technology ALL RIGHTS RESERVED.

  1. การแยกสาร | MindMeister Mind Map
  2. การแยก สาร
  3. การแยกสาร ppt
  4. แบบฝึกหัด ม 2 pdf
  5. ม 2 ppt
  6. การแยกสาร การกรอง

การแยกสาร | MindMeister Mind Map

1 กรดแก่ หรือ กรดเข้มข้นทุกชนิด สามารถก่อให้เกิด การระคายเคืองต่อผิวหนังและเยื่อบุตา เฉพาะอย่างยิ่ง กรดไนตริก กรดโครมิก และ กรดไฮโดรฟลูออริก การเคลื่อนย้ายกรดเหล่านี้ควรใส่ถุงมือยาง ผ้ายางกันเปื้อน 2. 2 ด่างแก่ เช่น สารเหล่านี้ มีฤทธิ์ระคายเคืองตาสูง ดังนั้น การเคลื่อนย้าย สารเคมี ในกลุ่มนี้ต้องใส่อุปกรณ์ป้องกันเช่นเดียวกับการเคลื่อนย้ายกรดแก่ 2. 3 สารที่ดูดน้ำ สารเคมี ในกลุ่มนี้ที่สำคัญ ได้แก่ กรดซัลฟูริก Sulfuric acid. Sodium hydroxide, phosphorus pentoxide. Calcium oxide. สารเหล่านี้หากสัมผัสผิวหนังก่อให้เกิดอาการไหม้ของผิวหนังได้ 2. 4 สารออกซิไดซ์ ได้แก่ สารที่เป็นตัวรับอิเล็กตรอน ในปฏิกิริยาหรือเป็นตัวให้ออกซิเจน สารในกลุ่มนี้ เช่น สารประกอบ Hypochlorite permanganate และเปอร์ออกไซด์ เนื่องจากสารในกลุ่มนี้เป็นตัวให้ออกซิเจน จึงสามารถเป็นตัวเร่งให้เกิดการสันดาปหรือเผาไหม้ได้

สารเนือ้ เดยี ว สารที่มีองคประกอบชนิดเดยี วหรือหลายชนดิ ผสมกนั อยูอยา ง กลมกลืน มองเห็นเปน เน้ือเดียวกันตลอด (อาจมหี ลายสถานะที่แสดงสมบตั ิ เหมือนกันทุกประการ) 2. สารเนือ้ ผสม สารที่มองเหน็ ดวยตาเปลาไมเ ปนเนื้อเดยี วกันตลอดทกุ สวน สารทเี่ กดิ จากสารต้ังแต 2 ชนดิ มารวมกัน โดยมีอัตราสว นทไ่ี มแนนอน (อาจเปน สารที่อยใู นสถานะเดยี วกนั หรือตางสถานะมารวมกนั ไดส ารเนอื้ ผสม) หลักการแยกสารเนอื้ ผสม 1. วิเคราะหส มบัตขิ องสารแตละชนดิ ในสารผสม โดยใชสมบัติทีต่ า งจากสารอื่นๆ อยา งชัดเจนมาใชแยกสารทต่ี อ งการ 2. เลือกเทคนิคท่เี หมาะสมในการแยกสารทต่ี องการ การแยกสารบางกรณีอาจตองการแยกสารใหไดสารบรสิ ุทธิ์ 3. คํานึงถึงความสะดวก ประหยัด ปลอดภัยและไมท ําลาย ส่ิงแวดลอ ม วิธกี ารแยกสารเนอ้ื ผสม 1. การระเหยแหง (evaporation) 2. การตกผลกึ (crystallization) 3. การกล่ัน (distillation) 4. โครมาโทกราฟแบบกระดาษ (chromatography) 5. การสกดั ดว ยตวั ทําละลาย (solvent extraction) 6. การกรอง (fittration) 7. การตกตะกอน (sedimentation) 8. การหยบิ ออก 9. การรอ น 1. การระเหยแหง (evaporation)  การแยกสาร ใชแ ยกตัวละลายทเ่ี ปนของแข็งในตัวทาํ ละลายที่เปน ของเหลวซง่ึ ระเหยไดงา ย  หลกั การ สารทีม่ ีจดุ เดือดต่ําจะระเหยกลายเปนไอไดด กี วาสารทีม่ ีจุดเดอื ดสงู 2.

การแยก สาร

การแยกสาร คือ

โน้ตของ สรุป การแยกสาร:) ชั้น - Clearnote เข้าสู่ระบบ เผยแพร่เมื่อ 23/04/2017 12:37 แก้ไขเมื่อ 15/07/2021 17:05 ข้อมูล dlspxnch ถ้าคิดว่าโน้ตนี้มีประโยชน์ ก็กดติดตามผู้เขียนเพื่อรับแจ้งเตือนเมื่อมีโน้ตใหม่ ๆ มาได้เลย! ความคิดเห็น สมุดโน้ตแนะนำ คำถามที่เกี่ยวข้องกับโน้ตสรุปนี้

การแยกสาร ppt

การแยกสาร pdf

การแยกสาร by 1. การเขี่ยออก 1. 1. ขนาดต่างกัน 1. 2. สีต่างกัน 1. 3. มองเห็นต่างกันชัดเจน 2. การกรอง 2. ใช้เครื่องมือ เช่น กระดาษกรอง กระชอน ผ้าขาวบาง ตะแกรง 2. ขนาดอนุภาคต่างกัน 2. ของเหลวปนกับของแข็ง 3. การกลั่น 3. ใช้กับสารผสม 3. จุดเดือดต่างกันมาก 3. เช่น น้ำเกลือ น้ำเชื่อม 4. โครมาโทกราฟี 4. สารเนื้อเดียวที่มีสี 4. ถูกดูดซับได้ดีต่างกัน 4. ใช้ตัวดูดซับ เช่น กระดาษกรอง ทิชชู่ ชอล์ก 5. การสกัดด้วยตัวทำละลาย 5. ใช้สารที่มีคุณสมบัติเป็นตัวทำละลาย 5. ตัวทำละลาย เช่น น้ำ เฮกเซน แอลกอฮอล์ 5. การสกัดสีจากใบเตย การสกัดกลิ่นของขมิ้น โดยแอลกอฮอล์ 6. กลั่นลำดับส่วน 6. จุดเดือดไกล้เคียงกัน 6. ของเหลวปนกับของเหลว 6. เช่น น้ำมันดิบ 7. ด. ช อัฑฒกร ระกาพันธ์ุ ชั้นม. 2/1 เลขที่3

แบบฝึกหัด ม 2 pdf

4 องศาเซลเซียส สารกลุ่มนี้จะทำปฏิกิริยารุนแรงกับน้ำ และติดไฟเมื่อสัมผัสกับน้ำ หรือ อากาศชื้น ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น จะเร็วหรือช้าขึ้นกับชนิดของ สารเคมี บางตัว สามารถติดไฟขึ้นเองได้ เมื่ออุณหภูมิภายนอกถึงจุดสันดาปของ สารเคมี โดยไม่ต้องอาศัยอุปกรณ์อื่นช่วย 1. 3 สารที่ไวต่อการทำปฏิกิริยากับน้ำ สารเคมี ที่ไวต่อปฏิกิริยากับน้ำเกิดปฏิกิริยารุนแรง โดยเฉพาะเมื่อมีน้ำอยู่จำกัด สารในกลุ่มนี้ เช่น สาร alkali สาร alkali earth เช่น potassium calcium สารในกลุ่ม anhydrous metal halides. 1. 4 สารเคมี ที่เกิดเปอร์ออกไซด์ สารเคมีในกลุ่มนี้ ทำปฏิกิริยาอย่างช้า ๆ กับออกซิเจนในอากาศ โดยมีแสง และความร้อนเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา เกิดเป็นสารเปอร์ออกไซด์ สามารถก่อให้เกิดการระเบิดรุนแรงได้ ในการนำ สารเคมี ในกลุ่มนี้มาใช้ต้องแน่ใจว่าปราศจากสารเปอร์ออกไซด์ บางห้องปฏิบัติการกำหนดระยะเวลาจัดเก็บสารในกลุ่มนี้เป็นราย สารเคมี รายละเอียดสารในกลุ่มที่เกิดเปอร์ออกไซด์ และระยะเวลาจัดเก็บในห้องปฏิบัติการ 2. สารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อน Corrosives สารเคมี ในกลุ่มนี้ ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ ทำลายเยื่อบุผิวหนัง และเยื่อบุตา สารในกลุ่มที่สำคัญ ได้แก่ กรดแก่ ด่างแก่ สารที่ดูดน้ำ และ สารออกซิไดซ์ 2.

การกรอง (fittration)  การแยกสาร การทําใหของแข็งและของเหลวแยกออกจากกนั โดยใชวสั ดุตาง ๆ เชน กระดาษกรอง ผาขาวบาง เปน ตน การแยกสารโดยใชส มบตั ทิ างกายภาพอน่ื ๆ การหยบิ ออก ใชแยกของผสมเน้อื ผสม ทขี่ องผสมมีขนาดโตพอ ทจ่ี ะหยบิ ออกหรอื เขย่ี ออกได การใชค วามหนาแนนทตี่ างกันมาก การใชแมเหล็กดูด ใชแมเ หลก็ ดดู สารแมเหลก็ ออกจากสารผสม

ม 2 ppt

  • บริษัท เบนซ์ รามคำแหง กรุ๊ป จำกัด เปิดรับสมัครงาน หลายอัตรา | JOBTOPGUN
  • การแยก สาร ป.6
  • การแยกสาร – STEM for Life
  • เรท ค่า ส่ง
  • กางเกง k7 สี ดํา
  • ศาลแรงงานภาค 9 (สงขลา) รับสมัครลูกจ้างชั่วคราว ตำแหน่งนิติกร
  • การแยก สาร ม.2
  • การแยกสาร | MindMeister Mind Map
2 การกลัน่ ลาํ ดบั สวน  การแยกสาร เปน กระบวนการแยกสารทม่ี จี ดุ เดือด ตา งกนั ออกเปนสวนๆ โดยการกลนั่ ซํา้ ๆ กันหลาย ๆ ครง้ั อยางตอ เนอื่ งในหอกล่ัน หรอื คอลมั น  หลกั การ - สารทีม่ ีเดอื ดต่าํ จะควบแนน และกลั่นตวั กอ น (อยดู านบนของหอกลน่ั) - สารท่ีมจี ุดเดือดสงู จะควบแนนและกลน่ั ตัวทหี ลังตามลาํ ดับ 3. 3 การกลัน่ ดวยไอนาํ้  การแยกสาร ใชสาํ หรับแยกสารทีร่ ะเหยงาย ไมละลายนํ้า และไมทาํ ปฏกิ ิรยิ ากบั นํ้า ออกจากสารท่รี ะเหยยาก เชน สกดั แยกนํ้ามนั หอมระเหย จากสว นตางๆ ของพืช  หลักการ เปนวิธีการสกัดสารออกจากของผสม โดยใชไอน้าํ เปน ตัวทําละลาย 4. โครมาโทกราฟแบบกระดาษ (chromatography)  การแยกสาร ใชแ ยกสารที่เคลอื่ นท่บี นกระดาษดว ยอตั ราเรว็ ตา งกัน เนื่องจากความสามารถในการละลายของสารในตัวทําละลาย และความสามารถในการดดู ซบั ของตัวดูดซบั ตางกนั เหมาะกบั สารท่มี ีปรมิ าณนอ ย  หลกั การ องคป ระกอบของวธิ โี ครมาโตกราฟ มี 2 องคป ระกอบ คือ 1. ตัวทาํ ละลาย ทาํ หนา ทีล่ ะลายและพาสารเคล่อื นไป สารทีล่ ะลายในตวั ทําละลายไดดี จะเคล่ือนทแ่ี ยกตวั ไปกอน สารที่ละลายในตัวทําละลายไดนอ ยจะเคล่ือนทีท่ ีหลงั ตัวทํา ละลายไดแ ก 2.

การแยกสาร การกรอง

acid&base: การแยกสาร

การตกผลกึ (crystallization)  การแยกสาร ใชแ ยกตัวละลายทเี่ ปนของแขง็ ในสารละลายอ่ิมตวั ของของแขง็ น้ัน  หลกั การ อาศยั ความสามารถในการละลายของสารตางชนดิ กนั ในตัวทํา ละลายชนดิ เดียวกันจะแตกตางกัน ดวยการทาํ ใหสารละลายอิ่มตวั ที่ อุณหภูมสิ งู มอี ุณหภูมลิ ดลง สารทีม่ คี วามสามารถในการละลายตาํ่ จะ ตกผลึกกอ น  การแยก3สา. รการกลน่ั (distillation) ใชแ ยกตัวทาํ ละลายทเี่ ปน ของเหลว ในสารละลายซึง่ มตี ัวทาํ ละลาย และตัวละลายที่มีจดุ เดอื ดตางกัน  หลักการ ใหความรอ นแกสารละลาย ของเหลวทีม่ จี ุดเดือดตาํ่ กวา จะเดือด และกลายเปนไอแยกออกจากสารละลาย แลว ควบแนน กลบั เปน ของเหลวอีกคร้งั เมอื่ อุณหภูมิลดลง 3. 1 การกล่นั อยา งงาย  การแยกสาร เปนการแยกตวั ทาํ ละลายออกจากตัวละลาย โดยอาศัยหลกั การ ระเหย และ การควบแนน เพียงคร้งั เดยี ว  หลักการ ลักษณะของสารทีจ่ ะแยกโดยการกลัน่ อยา งงาย มีดังนี้ 1. ตวั ทาํ ละลายตองเปน ของเหลวระเหยงา ย มจี ุดเดอื ดตาํ่ (สถานะมกั เปน ของเหลว) 2. ตัวถกู ละลายเปนสารทีม่ จี ดุ เดอื ดสงู ระเหยยาก (สถานะของแข็ง) 3. ตัวทําละลายและตัวถกู ละลายควรมจี ดุ เดือดตางกนั มากกวา 20 oC 3.

  1. หมาปอม ราคา
  2. ขาย ต้น camellia on aliexpress
  3. ของเล่น ฝึก กล้าม เนื้อ มัด เล็ก ภาษาอังกฤษ
  4. กลอง ทิม ทอม
  5. ตลาด รถ นราธิวาส เขต
  6. Bmw series 8 ราคา wheels
  7. เด็ก หัวใจ เต้น เร็ว ๆ
  8. ราคา บอล ไหล sbobet